Print
Category: Elliott Wave Article
Hits: 338

เวอร์ชั่นคลิปบรรยายในช้อง YouTube กดที่ภาพครับ


บทความนี้ไม่ได้สอน SMC นะครับ แต่มีเพื่อนสมาชิกคอมเมนต์ในคลิปที่ผมนับคลื่นไว้เมื่อปี 2013 ว่าเหมือนกับ SMC , ผมก็เลยลองค้นหาความหมายของคีย์เวิร์ดที่เขาให้มา พบว่าทั้ง 4 หลักการนี้เป็นเทคนิคการวิเคราะห์กราฟที่ใช้กันมานานแล้ว บางหลักการก็เก่าแก่เป็นร้อยปี แค่เรียกชื่อต่างกันเท่านั้นเอง

มาดูกันเลยครับ ✍️

 

เป็นคอมเมนต์ใต้คลิปนับคลื่นที่ผมทำไว้เมื่อ 12 ปีที่แล้ว ไม่แน่ใจว่าช่วงเวลานั้นมีชื่อ SMC เกิดขึ้นหรือยัง เท่าที่จำได้ผมได้ยินชื่อนี้ประมาณ 5-6 ปีก่อน (ปัจจุบัน 2025)

แต่หลักการที่ผมใช้มาจากทฤษฎี Elliott Wave ที่ผ่านการเก็บข้อมูลทำ Back Test / Forward Test และทำ Research เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้วจนถึงปัจจุบัน

 


 

มาดูคีย์เวิร์ดที่เพื่อนสมาชิกกล่าวถึงในคอมเมนต์กันทีละตัวเลยครับ 

 

เริ่มจาก Dow Theory ก่อนครับ

 

หลักการแรกคือ Dow Theory ทฤษฎีดาวมีมานานเป็นร้อยปีแล้วนะครับ Elliott Wave ก็พัฒนามาจาก Dow Theory รวมถึงทฤษฎีอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งแต่ละตำราก็อาจจะมีการตั้งชื่อแตกต่างกันไปเพื่อให้จดจำง่าย รวมถึงคำว่า Market Structure ที่กินความหมายหลายส่วนของกราฟราคา ก็เริ่มต้นมาจาก Dow Theory

 

ChoCh (SMC)

ในทฤษฎีดาวจะมีหลักการ Confirm การจบชุด Trend ด้วยการย้อนกลับมาหา Low ก่อนหน้าใน Trend ขาขึ้น (รูปซ้าย) หรือถ้าเป็น Trend ขาลงก็จะย้อนกลับขึ้นไปหา High ก่อนหน้า (รูปขวา) ซึ่งผมจะเรียกหลักการนี้ว่า Completely Retrace เป็นจุด Confirm การจบ Trend  ซึ่งก็มีมานานเป็น 100 ปีแล้วเหมือนกัน

 

 

 

Elliott Wave ก็ได้นำหลักการนี้มาใช้ ทั้งเทรนในภาพใหญ่และเทรนย่อย ๆในภาพเล็ก  ผมสอนหลักการนี้มา 20 กว่าปีแล้วเหมือนกัน และ Elliott Wave ก็นำมาใช้เมื่อ 80 ปีก่อน

 

เทคนิคอื่น ๆ ก็มีการนำมาใช้อย่างกว้างขวางครับ เช่นตัวอย่างภาพบนคือแพทเทิร์น Head & Shoulder ก็มีมานานก่อนพวกเราเกิดอีกครับ ✌️

 

 

BoS (SMC)

 

การ Break out หรือการจบสภาวะ Sideway หรือจบรูปแบบการปรับฐาน หลักการนี้ก็มีมานานมากแล้วเหมือนกันครับ รวมถึง Elliott Wave ก็ได้นำหลักการนี้มาใช้ด้วย ลองเปิดตำรา Mastering Elliott Wave บทที่ 6 ดูครับ เล่มนี้อายุเกือบ 40 ปีแล้ว ผมเองก็ใช้มา 20 กว่าปี

 

 

ภาพบนเป็นภาพจากหนังสือที่ผมเขียนแจกเมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว กลยุทธ์การเทรด Break out ถือเป็นกลยุทธ์ที่ใช้กันมานาน

 

 

Order Block (SMC)

การเด้งกลับเมื่อชนหรือเข้ากรอบ Sideway (หรือ Correction)

 

หลักการ SMC ที่ว่าหากราคาย้อนกลับมาที่โซนพักตัว จะเกิดการเด้งกลับหรือ Pull back  เช่นตัวอย่างภาพบนเมื่อจบคลื่น 5 ของฟอร์ม 1st Extension ราคาจะลงมาที่โซนของคลื่น 2 แล้วจะเด้งกลับที่บริเวณนี้ (เป็นคลื่นอะไรก็แล้วแต่) ก็มีในตำรา Mastering Elliott Wave ครับ (ตำราปี 1990) และมีการกำหนดชัดเจนว่าจะเด้งที่คลื่นอะไรหรือโซนไหน คือไม่ใช่ทุกโซนที่ราคาจะเด้งกลับได้ (โซนจำนวนมากจะถูกเบรคผ่านไปอย่างรวดเร็ว) ดังนั้นการรู้โซนที่จะเด้งกลับแบบกำหนดล่วงหน้าได้จะทำให้เล่นง่ายขึ้น เพราะไม่ต้องคาดเดาไปทีละโซน เช่นเทรนบางชนิดเด้งที่โซนคลื่น 4 เทรนบางชนิดเด้งที่โซนของคลื่น X เป็นต้น

 

 

ภาพบนเป็นหนังสือที่ผมเขียนสอนเมื่อประมาณ 20 ปีก่อนอธิบายถึงโซน Sideway ต่าง ๆ ที่จะเด้ง หรือจะ Break out 

 

ภาพบนหนังสือเล่มเดียวกัน แสดงยอดเก่าที่กลายมาเป็นโซนแนวรับ ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นเทคนิคที่ใช้กันมานานอย่างกว้างขวาง

ภาพปกหนังสือที่ผมเขียนแจกเป็นไฟล์ PDF ในยุครุ่งเรืองของเว็บบอร์ด

 

ภาพบน บทความเรียนลัด Elliott Wave ผมเขียนลง Block Spot เมื่อ 20 กว่าปีก่อน เรียนลัด Elliott Wave

 

 

แถมแนวคิด Liquidity (SMC)

ส่วนหลักการที่ SMC เล่าถึง Logic รายใหญ่เข้ามาเคลียร์ออเดอร์ที่รายย่อยวางในตำแหน่งต่าง ๆ ก็มีมานานแล้วเหมือนกัน ทั้งในทฤษฎี Chart Pattern และ Elliott Wave ,ใน Standard Correction และ Non Standard ของ Elliott Wave ก็จะเจอแพทเทิร์นลักษณะนี้ แค่ไม่ได้อธิบาย Logic ว่ารายใหญ่กินรายย่อยเท่านั้นเอง แต่อธิบายในลักษณะของ Market Emotion หรืออารมณ์ที่ตลาดสะท้อนผ่านกราฟราคา รวมถึงมีสัญญาณเตือนล่วงหน้าให้ระวังตัวด้วย ซึ่งผมก็พาวิเคราะห์ในเพจรวมถึงใน Live อยู่ตลอด 

ภาพนี้ Irregular Flat สามารถนับคลื่นย่อย ๆ และใช้สัดส่วน Fibonacci คำนวณเป้าหมายการวิ่ง Break ขึ้นของ Strong B และการเบรคลงของ C ได้แม่นยำครับ , การอธิบายด้าน Logic จะแตกต่างกับ SMC ที่มองว่ารายใหญ่ดักกินรายย่อย แต่ Elliott Wave อธิบายในลักษณะอารมณ์ที่ตลาดสื่อสารออกมาผ่านกราฟราคาหรือ Market Emotion

 

 

Logic เบื้องหลังกราฟราคา

ในเรื่องของ Logic หรือจิตวิทยาที่อยู่เบื้องหลังราคา มีหลักอธิบายใหญ่ ๆ อยู่ว่า "ราคาได้ซึมซับเหตุการณ์ไว้ทั้งหมดแล้ว" ก็แปลว่าเบื้องหลังราคาล้วนมี Story ส่วนจะ Story แบบไหนก็อธิบายกันไป ซึ่งจะไม่มีล็อกตายตัวเช่นว่า เป็นเรื่องของรายใหญ่ดักกินรายย่อยเท่านั้น หลายครั้งก็เป็นที่ตัวตลาดเองที่สับสนในปัจจัยพื้นฐานหรือข่าว ก็เลยวิ่งกันวุ่น ในช่วงก่อนและหลังข่าวหรือช่วงเปิดตลาด อย่างเช่น 2 ภาพล่าง

 

  

ภาพบนคือ Silver ราย 15 นาที ช่วงเปิดตลาดยุโรป จะเห็นว่าแท่งเทียนทิ้งหางบนล่างแล้วกลับมาปิดที่ราคาเปิด แท่งเทียนลักษณะนี้ใช้อธิบายเชิงจิตวิทยามวลชน "คือความไม่แน่ใจ" จึงเกิดการซื้อ ๆ ขาย ๆ สุดท้ายมาปิดอยู่ที่เดิม มักเกิดก่อนข่าวสำคัญหรือช่วงใกล้จะเปิดตลาด

ทีนี้ถ้าหากลด Time Frame ให้เล็กลงก็จะเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นภายในแท่งเทียน ตามภาพล่าง

 

 

ภาพบน ลด Time Frame ลงมาเป็น 1 นาที เพื่อให้เห็นว่าภายในแท่งเทียนทิ้งหางยาว ๆ ในราย 15 นาทีเกิดอะไรขึ้นบ้าง ตามภาพก็จะเห็นการ Break บนล่าง ถ้าอธิบายแบบ SMC ก็คือรายใหญ่เคลียร์ออเดอร์ของรายย่อย กินทั้งบนทั้งล่าง

แต่ถ้าอธิบายแบบแท่งเทียนก็เหมือนที่เล่าไปคือ เป็นลักษณะของจิตวิทยามวลชน ที่ตลาดยังสับสนไม่แน่ใจก่อนข่าวสำคัญ หรือช่วงใกล้จะเปิด-ปิดตลาด ปริมาณการซื้อขายจะลดลงจนไม่สามารถสร้างเทรนได้ แท่งเทียนจึงมีลักษณะทิ้งหางบนล่าง ถึงแม้จะมีการ Break out ก็ไม่สามารถทำให้เกิด Trend ได้ เพราะปริมาณการซื้อขายไม่มากพอ อย่างเช่นภาพล่าง

 

ภาพบนคือทองคำในราย H4 ก่อนประกาศตัวเลข PPI เกิดแท่งเทียนทิ้งหางบนล่างถึง 3 แท่ง, ถ้าเปลี่ยนไปดู TF ย่อย ๆ ก็จะเห็นการเบรคบน-ล่าง แต่ไม่เลือกทาง เพราะตลาดยังไม่มั่นใจในตัวเลขที่จะประกาศออกมา

 

 

ภาพบนตัวเลข PPI (ดัชนีราคาผู้ผลิต) มีตัวเลขลดลงก็จะทำให้เงินเฟ้อลดลง ค่าเงิน USD อาจปรับตัวลดลง จึงทำให้นักลงทุนมั่นใจที่จะเข้าซื้อทอง ราคาทองคำจึงดีดเขียวขึ้นมาเพราะมีความชัดเจนในปัจจัยพื้นฐานแล้ว

 

 

ไม่ว่าจะอธิบาย Logic แบบไหนก็ไม่สำคัญครับ สำคัญตรงที่การอ่านทิศทางและกำหนดเป้าหมายราคาได้ เพราะ 2 สิ่งนี้จะทำให้เราเทรดทำกำไรได้ ถึงจะอธิบาย Logic หลังกราฟเกิดขึ้นแล้วได้ แต่ไม่สามารถวิเคราะห์หาทิศทางและเป้าหมายใน Real Time หรือหน้างานได้ ก็ไม่เกิดประโยชน์ สำหรับผมไม่ค่อยสนใจเรื่อง Logic เท่าไหร่ จะอธิบายให้เป็น Story แบบไหนก็ได้ครับ ไม่มีถูกที่สุดหรือผิดทั้งหมด

 

 

หลักการต่าง ๆ ที่กล่าวมาทั้งหมด ผู้ใช้เทคนิคจะทราบดีว่าเป็นวิธีการที่ใช้กันอยู่นานแล้ว แค่ว่าเรียกต่างกันในแต่ละตำราเท่านั้นเองครับ ❤️


 

 

ติดต่อสอบถามคอร์สเรียน แนะนำติชมมาที่

 

Email: This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

 

Line ID : i_woottichai

 

ช่อง YouTube : www.youtube.com/@woottichaiinsawang9591

 

มาพูดคุยกันที่แฟนเพจ www.facebook.com/advanceelliottwave