บทเรียนนี้ผมอยากให้เพื่อน นลท. ทุกท่านศึกษาเพื่อนำไปปรับใช้กับพอร์ตลงทุนของตัวเอง สิ่งใดไม่ดี ไม่สมเหตุสมผล ตัดทิ้งไป สิ่งใดเป็นประโยชน์เก็บเอาไว้ ก็จะทำให้บรรลุเป้าหมายในการลงทุนไม่ยากครับ
ภาพบนจากหนังสือ Elliott Wave Principle หน้า 53 , Figure 1-45
ภาพบนคือสภาวะที่ตลาดออกข้าง Sideway ไปเรื่อย ๆ ไม่จบแค่ ABC ชุดแรก ก็วาง WXY ตามภาพ ถือว่าเป็นการจัดระเบียบกราฟให้ดูง่ายขึ้นครับ
รูปแบบนี้ไม่มีปัญหาอะไรครับ ที่มีปัญหาคือรูปแบบต่อจากนี้
ภาพบนจากหนังสือ Elliott Wave Principle หน้า 43 , Figure 1-26
- ให้โฟกัสที่การลงมา 3 คลื่น (W-X-Y) โดย W มี 3 คลื่น + X มี 3 คลื่น + Y มี 3 คลื่น
- คลื่นภายในของ W X Y คือ A B C รหัสคลื่นคือ W:3 - X:3 - Y:3
ภาพบน ถ้าผมนับเป็น ABC ก็เท่ากับว่าผิดหลักการรหัสคลื่น 5-3-5 ที่ Elliott Wave Principle ยึดถือ (A ต้องมี 5 คลื่น, B ต้องมี 3 คลื่น และ C ต้องมี 5 คลื่น)
แต่เราลองมาดูภาพจากหนังสือเล่มอื่นกันบ้างครับ
ภาพบนจากหนังสือ R.N. Elliott's Masterworks (Robert Prechter)
ทุกท่านสังเกตที่คลื่นย่อยของ A และ C ครับ มี 3 คลื่นย่อย แต่ก็ไม่แก้ไขเป็น WXY
ภาพบนจากหนังสือของ Fischer
สังเกตว่า A และ C มี 3 คลื่นย่อย แต่ก็ไม่แก้ไขเป็น WXY
ดังนั้น WXY ของหนังสือ Elliott Wave Principle ก็คือ รูปแบบ Zigzag หรือ Flat ที่ไม่ตรงตามรหัสคลื่น 5-3-5 และ 3-3-5 ถ้าลง ABC จะผิดกฎรหัสคลื่น แต่ลง WXY ไม่ถือว่าผิด
WXY จึงถูกนำมาใช้เมื่อรูปแบบของกราฟจริงไม่เป็นไปตามกฏบางข้อหรือรหัสคลื่น แต่หนังสือเล่มอื่นเลือกที่จะนับคลื่นไปตามความจริง เช่น ถ้า A มี 3 ก็นับ 3 หรือถ้า C มี 3 เขาก็นับไปว่ามี 3 ตามจริง โดยไม่เลี่ยงบาลีด้วย WXY
มาดูไฮไลท์สำคัญของบทความกันครับ
ภาพบน หนังสือ Elliott Wave Principle ลงไว้ใน Official Fanpage : Elliott Wave International วันที่ 15.11.2025
ทุกท่านน่าจะสงสัยว่า ทำไมภาพนี้เขาจึงไม่นับเป็นรูปแบบ ABC Flat เพราะถ้าว่ากันตามจริงแล้ว ภาพนี้ก็ถือว่าเป็นรูปแบบพื้นฐาน ABC ที่ดูง่ายมาก ๆ แต่ทำไมเขาจึงทำให้มันซับซ้อนด้วยการนับ WXY ? เฉลยภาพล่างครับ
ภาพบนผมแก้ให้เป็น ABC Flat มั่นใจว่าทุกท่านที่นับคลื่นอยู่ ก็ต้องนับแบบผมแน่นอน แต่ให้สังเกตว่าคลื่นย่อยของ B มี 5 คลื่น ซึ่งผิดกฏรหัสคลื่นที่ B ต้องมี 3 เท่านั้น หนังสือ Elliott Wave Principle ก็เลยนับให้เป็น WXY แค่นี้ก็ถือว่าไม่ผิดรหัสคลื่นแล้ว , อย่างไรก็ตาม ภาพนี้คือสภาวะของตลาดแบบ Flat ไม่ว่าจะใช้ Label อะไรก็ตาม
คำแนะนำ
ภาพนี้ให้ทุกท่านนับไปตามจริงเลยครับ นี่คือรูปแบบพื้นฐาน ABC Flat แค่ไม่ตรงตามสูตรรหัสคลื่น 3-3-5 เท่านั้นเอง
การที่เราบันทึกข้อมูลไปตามความจริง จะทำให้เรามีข้อมูลย้อนหลังเกี่ยวกับการ False ของรหัสคลื่น แต่หากเราแก้ไขให้เป็น WXY ก็จะทำให้ระบบรหัสคลื่นถูกต้อง 100% ซึ่งเป็นไปไม่ได้ ไม่มีระบบใดในโลกนี้ที่สมบูรณ์แบบ 100%
ภาพบน หนังสือ Elliott Wave Principle ลงไว้ใน Official Fanpage : Elliott Wave International วันที่ 4 Jun 2025
ภาพนี้สังเกตว่าคลื่น 2 คือ WXY และ 4 คือ ABC Flat ทุกท่านเห็นความผิดปกติไหมครับ
ภาพบนผมลง Label ใหม่
หากพิจารณาตามหลักของ Correction ก็จะพบว่าสภาวะที่แท้จริงของคลื่น 2 และ 4 ต่างก็เป็นรูปแบบ Flat ทั้งคู่ ตามภาพบน, แต่ที่เขาไม่ลงให้เป็น Flat ทั้งคู่ก็เพราะจะทำให้ผิดกฏ Altrernation Rule ที่คลื่น 2-4 ห้ามเป็นฟอร์มเดียวกัน เขาก็เลยต้องลงให้คลื่น 2 เป็น WXY แทนเพื่อเลี่ยงบาลี
สำหรับผมเรื่องนี้เป็นตลกร้าย แค่เปลี่ยน Label เป็น WXY คลื่น 2-4 ก็เป็นคนละฟอร์มกันแล้ว
แต่ต่อให้เลี่ยงบาลียังไง ภาพนี้ก็ยังคงผิดกฏ Alternation ที่เขาได้อธิบายไว้ในหนังสือในหน้า 64 (ภาพล่าง)
ภาพบน จากหนังสือ Elliott Wave Principle หน้า 64 Figure 2-1 แสดงคอนเซ็ป Alternation ของคลื่น 2-4 , ถ้าคลื่นใดคลื่นหนึ่งเป็น Sideway อีกคลื่นต้องเป็นมุมแหลม Sharp ตามภาพ
หากใช้หลักการนี้อธิบายกฏ Alternation ต่อให้เปลี่ยนจากรูปแบบ Flat เป็น WXY ก็ยังผิดอยู่ดี เพราะทั้ง 2 และ 4 ต่างก็เป็นสภาวะ Sideway ทั้งคู่
การยอมรับไปตามตรงว่ากฏต่าง ๆ ไม่ได้ถูกต้อง 100% เป็นสิ่งที่ยอมรับได้ง่ายกว่า และถือเป็นส่วนสำคัญของการลงทุนด้วยครับ
ภาพบนจากหนังสือ Elliott Wave Principle หน้า 157 , Figure 5-1
สังเกตุว่าคลื่น 2-4 ในภาพนี้ที่เขานับลงหนังสือ Elliott Wave Principle ก็ไม่มี Alternation ของคลื่น 2-4 ดังนั้นกฏข้อนี้มันไม่ได้ 100% อยู่แล้วครับ
ภาพบน ซ้ายและขวาเป็นกราฟตัวเดียวกัน คนเขียนคนเดียวกัน (Robert Prechter) แต่อยู่ในหนังสือคนละเล่มกัน
- ภาพซ้ายหนังสือ Elliott Wave Principle วางให้ ABC Flat อยู่ในคลื่น 4
- ภาพขวาหนังสือ R.N. Elliott's Masterworks (คนเขียนคนเดียวกัน) วางให้ Flat มาอยู่ที่คลื่น 2 แทน
จะเห็นว่าสภาวะที่แท้จริงของคลื่น 2-4 ต่างก็เป็น Flat ด้วยกันทั้งคู่ครับ แต่เพื่อไม่ให้ผิดกฏ Alternation Rule ก็ต้องทำให้เป็นแบบในภาพ คือเลือกเอาเลยว่าจะให้ Flat อยู่ที่คลื่นไหน
นี่ไม่ใช่การวิเคราะห์ แต่เป็นการหลอกตัวเองและพวกเดียวกัน
คำแนะนำ
หากเจอกราฟลักษณะนี้ก็ให้เก็บข้อมูลไปตามจริงโดยไม่บิดเบือน แล้วเราจะได้ประโยชน์ในอนาคต เราจะมีข้อมูลเพื่อใช้อ้างอิงว่าเคยมีเหตุการณ์ที่รูปแบบ Impulsion ไม่มี Alternation แต่หากเก็บข้อมูลโดยการบิดเบือน เราก็จะไม่เห็น False ของระบบ การไม่เห็น False ก็เท่ากับระบบนี้ถูกต้อง 100%
ระบบที่ถูกต้อง 100% คือข้อมูลเท็จ การถือข้อมูลที่เป็นเท็จมาลงทุน ถือว่าเป็นสิ่งที่อันตรายเป็นอย่างมากครับ
เป้าหมายของบทความชุดนี้
เรื่องตำรา Elliott Wave ของฝรั่งผมค้นคว้าและทำ Research เก็บไว้เมื่อ 20 กว่าปีก่อน แต่ว่าไม่เคยนำมาเผยแพร่
จนกระทั้งผมกลับมาอัพเดทเพจเมื่อปลายปี (หลังจากหายไปนาน) ก็มีเพื่อนสมาชิกคัดลอกสิ่งที่อยู่ในตำรามาคอมเมนต์ เช่น 2 ภาพล่าง
ทำให้ผมรู้สึกเหมือนได้ย้อนกลับไปวันที่เพิ่งอ่านตำรา อ่านแล้วก็ว้าวกับหลักการ และเชื่อทุกอย่างที่ตำราเขียนโดยไม่มีการตรวจสอบว่าหลักการเหล่านั้นใช้ได้จริงหรือไม่ บทความชุดนี้จึงขอพาทุกท่านร่วมกันตรวจสอบไปทีละส่วนว่า หลักการที่เขียนในตำราเล่มนี้ใช้ได้จริงมากน้อยแค่ไหนครับ
CEWA คือผู้ที่อ่านหนังสือเล่มน้ำเงินที่กำลังพูดถึงอยู่นี้ (Elliott Wave Principle) เพื่อสอบเอาใบ Certificate จากผู้เขียนตำรา
ผมทำบทความอธิบายเอาไว้แล้วนะครับ สำหรับการบอกว่าคลื่น 2 ห้ามเป็น Triangle ของหนังสือเล่มน้ำเงิน หนังสือก็เขียนแบบนี้จริง ๆ นะครับ แต่กราฟจริงไม่ได้เป็นอย่างที่เขาเขียน ถ้าตรวจสอบกันจริง ๆ จะพบว่า Triangle เกิดในคลื่น 2 ในกราฟจริงบ่อยมาก การอ่าน/ฟังแล้วเชื่อทันทีโดยไม่ไตร่ตรองให้รอบด้าน ถือเป็นเหยื่อในวงการลงทุนนะครับ, ผมทำเป็น Case Study ไว้ในบทความแล้ว Triangle ไม่ใช่การเก็บของและอยู่ใน W.2 ได้
หรือคอมเมนต์แบบด้านล่าง
คนนับคลื่นที่มีประสบการณ์กับกราฟจริงมักจะเจอคอมเมนต์แบบภาพนี้ครับ คือการคอมเมนต์/พูดตามตำรา โดยไม่มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน อ่านแล้วเชื่อทันทีโดยไม่ตรวจสอบ ไม่ถือว่าเป็นวิสัยที่นักลงทุนเขาทำกันนะครับ
ถ้ารู้ว่าส่วนใดของตำราใช้ได้และใช้ไม่ได้จริง ก็จะทำให้ผู้เริ่มต้นศึกษาประสบความสำเร็จโดยไม่ต้องเสียเวลาลองผิดลองถูกเอง คือเป้าหมายหลักของบทความชุดนี้ครับ
เรื่องนี้ทำให้ผมนึกถึงทฤษฎี "ฟางในชะลอม" ของอาจารย์ เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ จากหนังสือการคิดเชิงวิเคราะห์
ทฤษฎีชะลอม เปรียบได้กับคน ๆ หนึ่งที่มีสมติฐานหรือมีความเชื่ออย่างสนิทใจ ว่ากองฟางมีรูปร่างเหมือนชะลอม จึงพยายามหาข้อพิสูจน์ แต่หาเท่าไรกองฟางก็ยังคงมีรูปร่างต่าง ๆ ไม่เหมือนชะลอม แต่แทนที่เขาจะทำการพิสูจน์ความเชื่อหรือสมติฐานนั้น เขากลับอัดฟางลงไปในชะลอมจนแน่น แล้วเอากรรไกรตัดเล็มฟางที่เล็ดลอดออกมาจากชะลอมนั้น จนมันเรียบ จากนั้นจึงถอดชะลอมออก แล้วเที่ยวบอกใครต่อใครว่า “เห็นไหม ... กองฟางรูปร่างเหมือนชะลอมแล้ว” เป็นการสร้างความเชื่อให้เป็นความจริง โดยการคัดข้อมูลออกตามใจ เพื่อให้ข้อมูลลงตัวตามเป้าหมาย แล้วพยายามบอกคนอื่นให้เชื่อตาม
"สภาวะที่แท้จริงของตลาดคือความเป็นไปได้ที่หลากหลาย จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะถูกล็อกด้วยรหัสคลื่นทุกครั้ง วิธีเดียวที่จะทำให้หลักการรหัสคลื่น 5-3-5 เป็นจริงขึ้นมาได้ทุกครั้ง ก็คือต้องทำแบบเดียวกับฟางในชะลอม"
ภาพบน หนังสือการคิดเชิงวิเคราะห์ อ.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์
ทฤษฏีฟางในชะลอมถือเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันทางความคิดได้ดีทีเดียวครับ เพราะไม่ว่าจะยุคไหนการตัดแต่งข้อมูลให้คนหลงเชื่อ คาดเคลื่อนจากความเป็นจริงไม่เคยหายไป มีแต่จะเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ , ทักษะการตรวจสอบข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา จึงเป็นทักษะที่สำคัญในการฝึกลูกหลานของเราครับ
สามารถกดสั่งซื้อหนังสือจากเว็บไซต์ของผู้เขียนโดยตรง www.elliottwave.com/books
สามารถกดสั่งซื้อหนังสือ R.N. Elliott's Masterworks และ Elliott Wave Principle จากเว็บไซต์ของผู้เขียนโดยตรง www.elliottwave.com/books
2 ภาพนี้คือหนังสือของ Fischer
กดสั่งซื้อหนังสือจาก Amazon Fibonacci Applications and Strategies for Traders
ติดต่อสอบถามคอร์สเรียน แนะนำติชมมาที่
Email: This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
Line ID : i_woottichai
ช่อง YouTube : www.youtube.com/@woottichaiinsawang9591
มาพูดคุยกันที่แฟนเพจ www.facebook.com/advanceelliottwave
aaaa