ผม วุฒิชัย อินทร์สว่าง เป็นคนแรกที่สอนให้นับกราฟจริง โดยให้คลื่น 3 เป็น Trend แบบ abcxabc หรือ Trend ที่มากกว่า 5 คลื่น ท่านใดนำไปเผยแพร่ต่อแล้วถูกตั้งคำถามหรือโต้แย้ง สามารถอ้างชื่อผมได้เลยนะครับ

การสอนให้นับแบบนี้มาจากการสืบค้นหลักฐานที่เก่าแก่อย่างจดหมายของ Ralp Nelson Elliott รวมถึงหนังสือที่เขียนต่อยอดอีกนับจำนวนไม่ถ้วน

และแน่นอนว่าผมนำหลักการมาตรวจสอบกับกราฟในปัจจุบัน ทำ Back Test / Forward Test และทำ Research ของตัวเองอีกจำนวนมาก


 

ผมแบ่งบทความออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นตัวอย่างกราฟของจริงเมื่อเทียบกับหลักการนับคลื่น ถือเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ท่านได้ประโยชน์มากที่สุด และส่วนที่ 2 คือการอ้างอิงหลักการจากเอกสารและหนังสือที่มากกว่า 1 เล่ม

 

ดูตลาดของจริงกันก่อนครับ

 

2 ภาพบนแสดง Concept ก้างปลาและกราฟจริงตามรหัสคลื่น 5-3-5 โดยคลื่น 3 มี 5 คลื่นย่อย ซึ่งทุกท่านทราบดีอยู่แล้ว

 

 

ภาพบน เชื่อว่าท่านที่มีประสบการณ์ในการวิเคราะห์กราฟต้องเคยพบ Trend ลักษณะนี้

 

ภาพบนหนังสือของ Fischer เขานำเสนอเทรนที่มากกว่า 5 คลื่น คือนับ 5 แล้ว คลื่น 5 ก็ได้เป้าตามหลักการแล้ว แต่เทรนก็ยังไม่จบแค่ 5 คลื่น, แบบนี้ระบบการเล่นสวนเทรนหรือเปิด Short หลังคลื่น 5 จะไม่สามารถทำได้

 

พฤติกรรมของ Trend ลักษณะแบบ 2 ภาพบนไม่ใช่เทรนที่มี 5 คลื่น การนับคลื่นแบบยัดเยียดให้เป็น 5 คลื่นตามรหัส 5-3-5-3-5 จะไม่สามารถใช้ forecast เป้าหมายและประเมินจุดจบของเทรนได้ แต่จะเป็นลักษณะแก้ไข Label ให้เป็นคลื่นซ้อนคลื่นตามสูตร 5-3-5 ไปเรื่อย ๆ  เช่นภาพด้านล่าง

 

 

ภาพบนแสดงการนับคลื่นแบบยัดเยียดให้เป็นคลื่นซ้อนคลื่นตามรหัส 5-3-5-3-5, นับแบบนี้ไม่ถูกนะครับ เทรนลักษณะนี้ไม่สามารถแยกคลื่นใหญ่-คลื่นย่อยได้ (พ่อ-ลูก) เพราะทุกคลื่นใช้เวลาเท่ากันทั้งหมด

 

 

ภาพบน หากชุดคลื่นที่มีความยิบย่อยไปซ้อนอยู่ในคลื่น 3 ใหญ่ ก็ลงจำนวนคลื่นไปตามความจริง อาจใช้ตัวเลขนับขึ้นไปเรื่อย ๆ แบบหนังสือของ Fischer หรือว่าใช้ abc x abc x abc แบบ Glenn Neely หรือว่าจะใช้ a b c d e f g h i แบบเจ้าของทฤษฏี  Ralp Nelson Elliott แบบภาพด้านล่างก็ได้

 

 

 

 

ภาพบนคือภาพจากจดหมายที่ Ralp Nelson Elliott เขียนถึงนิตยสารทางการเงินของอังกฤษชื่อ The Economist เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 1935 (ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2)

ภาพนี้คือหลักฐานที่เก่าที่สุดที่บอกว่าผู้คิดค้น Elliott Wave หรือ Ralp Nelson Elliott (R.N. Elliott) ก็ไม่ได้กำหนดว่าคลื่น 3 ต้องมีแค่ 5 คลื่นเท่านั้น แต่สามารถมีมากกว่า ไปได้เรื่อย ๆ เชื่อว่าข้อเท็จจริงนี้ทุกท่านที่มีประสบการณ์ในการนับคลื่น ก็จะเห็นได้โดยไม่ต้องให้ตำราเล่มไหนมาสอนท่านเลย, และที่สำคัญเขาไม่ได้ใช้สัญลักษณ์ที่เป็นตัวเลข แต่ใช้ตัวอักษร a b c d e f g h i จากนั้นก็เป็นคลื่น 3 ใหญ่ตามภาพ

ดังนั้น Label  a b c จึงไม่ได้จำกัดว่าต้องใช้ในคลื่นปรับฐาน Correction 2-4 เท่านั้น แต่สามารถใช้ในคลื่นที่เป็น Trend อย่างคลื่น 1-3-5 ก็ได้ เรื่องนี้อยู่ที่ความเข้าใจในหลักการ ถ้าเข้าใจทฤษฏีคลื่น Elliott Wave จะใช้สัญลักษณ์อะไรหรือไม่ใช้เลยก็ได้ครับ เพราะท่านได้เข้าใจของจริงแล้ว

 

 

 

 

2 ภาพด้านบน เทรนที่มี 7 คลื่น (หรือฟอร์ม Double Zigzag) ไปเป็นคลื่นย่อยของคลื่น 3 ใหญ่

แต่ว่าตำรา Elliott Wave Principle จะใช้รูปแบบ Expanded Flat บีบให้เหลือแค่ 5 คลื่น อ่านบทความ > บีบ 7 คลื่นให้เหลือแค่ 5 : หนังสือ Elliott Wave Principle EP2

 

 


 

Part 2 อ้างอิงหนังสือ

 

อย่างที่บอกมาตลอดว่า ตำรานั้นไม่ได้มีแค่ของ Robert Prechter (Elliott Wave Principle) หรือ Glenn Neely (Mastering Elliott Wave) แต่ยังมีอีกเยอะมากครับ ซึ่งแต่ละเล่มก็มีแง่มุมที่น่าสนใจและสามารถนำมาต่อยอดใช้กับตลาดจริง ๆ ได้ อย่างเช่นตำราในรูปด้านล่างเป็นของ Fischer มาจากปี 1993 เป็นการนำตัวเลข Fibonacci มาใช้กับการนับคลื่น Elliott Wave

ถือเป็นตำรา Elliott wave อีกหนึ่งเล่มที่ผมอ่านเมื่อ 20 ปีก่อน

 

 

ภาพล่าง Fischer ลง Label ให้กับเทรนที่มากกว่า 5 คลื่น ไปแบบตรง ๆ เลย ก็คือนับต่อจาก 5 เป็น 6 7 8 9 

 

ภาพบนวาดจากหนังสือของ Fischer หน้า 55 เขาแสดงเทรนที่มี 7 คลื่น แล้วเปิด Sell ในคลื่นที่ 8

*ตำรา Elliott Wave Principle จะอธิบายเทรน 7 คลื่นไว้อีกแบบ อ่านที่นี่ บีบ 7 คลื่นให้เหลือแค่ 5 : หนังสือ Elliott Wave Principle EP2 

 

รูปบนนี้วาดจากหนังสือของ Fisher หน้า 128  เขาบอกว่าคลื่นย่อยของ 3 มีมากกว่า 5 คลื่น คือเป็น 1 2 3 4 5 6 7 (ถ้าลง Label แบบ Glenn ก็จะเป็น abcxabc เป็นฟอร์ม Double)

 

 

 

 

ภาพบนนำเสนอเทรน 9 คลื่น อยู่ในตำรา Elliott Wave จำนวนมากรวมถึง Elliott Wave Principle

ภาพบน ถ้าเทรนมีเกิน 5 เขาจะไม่พยายามยัดเยียดให้คลื่นที่เกินมาเป็นคลื่น Degree ย่อย แบบคลื่นซ้อนคลื่น แต่จะนับต่อ 5 6 7 8 9 ไปเลย (สามารถคำนวณเป้าหมายของคลื่นที่เกินมาได้)

 

ภาพบนหนังสือของ Fischer หน้า 36 

ภาพบน Fisher จะไม่ยัดเยียดให้เทรนให้เป็น 5 คลื่นโดยการนับเป็นคลื่นซ้อนคลื่นตามรหัส 5-3-5 , แต่เขาจะนับจำนวนคลื่นไปตามความเป็นจริงโดยไม่บิดเบือน

 

ภาพบนการนับคลื่นแบบยัดเยียดให้เป็นคลื่นซ้อนคลื่นตามรหัส 5-3-5 (ในภาพนี้นับไม่ถูกนะครับ)

 

 

 

แน่นอนว่าทุกครั้งที่ศึกษาตำราผมจะต้องทำ Research กราฟของจริงเพื่อตรวจสอบทุกครั้ง ว่าหลักการนี้เป็นจริงหรือไม่ ก็พบว่าเป็นจริงครับ มีเทรนที่เกิดแบบนี้บ่อย ๆ ตามรูปด้านล่าง

 

 

ภาพบน ตัวอย่างเทรน 7 คลื่น , ถ้า Mastering Elliott Wave จะลงเป็น ABCXABC

 

 

ภาพบน ตัวอย่างเทรน 9 คลื่น , ถ้าลงแบบ Mastering Elliott Wave จะไม่ครบ Phase

 

ส่วนภาพด้านล่างนี้เป็นของ Glenn Neely (Mastering Elliott Wave)

Glenn เลือกที่จะไม่ใช้ตัวเลข แต่ใช้สัญลักษณ์ a b c x a b c เพื่อบอกว่าเทรนนี้ไม่ใช่เทรน 5 คลื่น แต่ก็ความหมายเดียวกันนั่นแหล่ะครับ เป็นเทรนเหมือนกัน แค่ตำราคนละเล่มเลยใช้สัญลักษณ์ต่างกันเท่านั้นเอง

ทีนี้ Glenn เรียกเทรนแบบนี้ว่า Non Standard Correction สังเกตว่ามีคำว่า "Correction" อยู่ด้วย (เพราะเขาลง Label แบบเอาชุด a b c มาต่อกัน)  คนอ่านตำราก็ไม่ควรตีความว่า Correction ในบริบทนี้หมายถึงสภาวะตลาดแบบ Sideway เพราะนอกจากจะเทียบกับตำราอื่น ๆ แล้ว ตัวสภาวะที่เราเห็นก็คือ Trend ไม่ใช่ Sideway ดังนั้นเราจะไม่ตัดสินจากชื่อเรียก แต่ดูจากสภาวะที่ตลาดแสดงออกมา สมมติว่าโยนชื่อเรียกหรือหลักการนับคลื่นออกไป ถามว่านี่คือ Trend หรือ Sideway คงไม่มีนักเทคนิคคนไหนตอบว่า Sideway แน่นอน

 

มุมมองผมคือ Glenn ไม่ควรตั้งชื่อ Pattern ให้มีคำว่า Correction ปนอยู่ด้วย เพราะทำให้ที่เริ่มอ่านหนังสือเข้าใจผิดได้ ส่วนการใช้สัญลักษณ์  ABC ในคลื่นที่เป็น Trend อันนี้ได้แน่นอนเพราะตัวเจ้าของทฤษฏีเองก็ใช้แบบนี้เหมือนกัน

 

 

2 ภาพบนอธิบายตามหนังสือ Mastering Elliott wave by Glenn Neely หน้า 7-9 Figure 7-6e

Glenn แยกให้เราเห็นชัด ๆ ครับว่าเทรน 7 คลื่นจะประกอบด้วย Standard Correction 2 ชุดมาเชื่อมต่อกัน ซึ่งเขาจะใส่รหัส :3 ให้ชุดแรกและชุดที่ 2 ตามภาพบน เรียกว่า Compact Value :3

ในหน้า 8-2 หัวข้อ Non-Standard Type บรรทัดที่ 2 ข้อความในวงเล็บว่า (compacted to their base Structure of ":3") เขาเน้นคำว่า base Structure of :3 หมายถึงเป็นฟอร์มที่มีพื้นฐานมาจากคลื่นรหัส 3 นั่นเอง

ทีนี้ผู้ที่ท่องจำรหัส 3 คือ Sideway และรหัส 5 คือ Trend  พอมาอ่านตำรา Mastering Elliott wave by Glenn Neely เห็นเลข 3 ในชุดเทรน ABCXABC ก็สรุปทันทีว่านี่คือ Sideway ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องไม่ว่าจะมองจากมุมไหนครับ

 ผมถึงบอกว่าเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ผมไม่เข้าใจมากที่สุด ตอนที่มี 5 คลื่น ให้เป็น Trend แต่พอวิ่งต่อเป็น 7 คลื่นกลับมองเป็น Sideway (เพราะเห็นคำว่า Compact :3 กำกับเอาไว้) เป็นกระบวนการคิดที่ไม่อยู่บนพื้นฐานของตรรกะศาสตร์ครับ

 

 

 

 ต่อมาดูอ้างอิงจากเจ้าของทฤษฏีบ้างครับ เขาไม่ได้กำหนดว่าคลื่น 3 ต้องมีแค่ 5 คลื่นเท่านั้น

 

  

ภาพบนคือภาพจากจดหมายที่ Ralp Nelson Elliott เขียนถึงนิตยสารทางการเงินของอังกฤษชื่อ The Economist เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 1935 (ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2)

ภาพนี้คือหลักฐานที่เก่าที่สุดที่บอกว่าผู้คิดค้น Elliott Wave หรือ Ralp Nelson Elliott (R.N. Elliott) ก็ไม่ได้กำหนดว่าคลื่น 3 ต้องมีแค่ 5 คลื่นเท่านั้น แต่สามารถมีมากกว่า ไปได้เรื่อย ๆ เชื่อว่าข้อเท็จจริงนี้ทุกท่านที่มีประสบการณ์ในการนับคลื่น ก็จะเห็นได้โดยไม่ต้องให้ตำราเล่มไหนมาสอนท่านเลย, และที่สำคัญเขาไม่ได้ใช้สัญลักษณ์ที่เป็นตัวเลข แต่ใช้ตัวอักษร a b c d e f g h i จากนั้นก็เป็นคลื่น 3 ใหญ่ตามภาพ

ดังนั้น Label  a b c จึงไม่ได้จำกัดว่าต้องใช้ในคลื่นปรับฐาน Correction 2-4 เท่านั้น แต่สามารถใช้ในคลื่นที่เป็น Trend อย่างคลื่น 1-3-5 ก็ได้ เรื่องนี้อยู่ที่ความเข้าใจในหลักการ ถ้าเข้าใจทฤษฏีคลื่น Elliott Wave จะใช้สัญลักษณ์อะไรหรือไม่ใช้เลยก็ได้ครับ เพราะท่านได้เข้าใจของจริงแล้ว

หากเป็นตำรา Mastering Elliott wave by Glenn Neely จะใช้ abcxabc.... หรือตำราเล่มอื่นก็ใช้แตกต่างกันไป (ขึ้นอยู่กับว่าคนแต่งหนังสือจะกำหนด Label อย่างไร) แต่ไม่ว่าจะใช้สัญลักษณ์อะไรก็สื่อความหมายเหมือนกันคือ คลื่นย่อยของคลื่น 3 ไม่ได้ถูกกำหนดให้มีแค่ 5 คลื่นมาตั้งแต่แรก 

 

 

 


 

Double Zigzag

This pattern should not be completely retraced by the to follow unless, once again, it is the last segment of a 5th Extension Terminal

 

 

Double Combination

(Such as a Terminal Impulse - 1st, 3rd or 5th wave Extended)

  

 ข้อความจากหนังสือ Mastering Elliott Wave by Glenn Neely บทที่ 10

เป็นคำบรรยายจากบทที่ 10 ถึงที่อยู่ของรูปแบบเทรนที่มากกว่า 5 คลื่น (Double, Triple) เขาบอกว่าอยู่ใน 1 3 5 ของ Impulsion ได้แต่จะเป็น Terminal Impulse (คลื่น 2-4 ทับกัน) ซึ่งก็เท่ากับว่าสามารถเป็นคลื่นย่อยของ 1 3 5 ได้นั่นเอง แต่ก็ระวังว่าคลื่น 4 จะไหลมาทับกับ 2 (Overlap) แต่ถ้าหากกราฟของจริงไม่ทับกันละ? ก็คือไม่ใช่ Terminal ครับ แต่ก็ไม่สามารถลบล้างข้อเท็จจริงที่ว่าคลื่น 1 3 5 ได้เกิดฟอร์ม Non Standard ไปแล้วได้ (เพราะ 1 - 3 เกิดก่อน 4) เหมือนรูปด้านล่าง ที่คลื่น 3 เป็น a b c x a b c แต่พอจบ 3 แล้ว คลื่น 4 ไม่ไหลมาทับกับ 2 , ดังนั้นในหน้างานจริงถ้าคลื่น  1 3 5 เป็นชุดเทรนแบบ Non Standard ก็เป็นสัญญาณให้ระวัง Terminal Impulse นั่นเองครับ แต่ถ้าจบครบ 5 คลื่นแล้ว 2-4 ไม่ทับกันก็ไม่เป็นไร ไม่มี Effect จากฟอร์ม Terminal Impulse แค่นั้นเองครับ

  

 

Triple Zigzag

It is usually the longest segment of a Terminal impulsion or Triangle. When part of a Terminal pattern, it should be definition be the Extended segment.

ข้อความจากหนังสือ Mastering Elliott Wave by Glenn Neely บทที่ 10

เขาบอกว่า Triple สามารถเป็นคลื่นย่อยของคลื่นที่ยาวที่สุดของ Terminal Impulse ได้ (Longest segment of a Terminal, Extended Segment) ซึ่งหมายถึงคลื่น X1-X3-X5

 

ถ้านึกภาพไม่ออกลองดู 2 ภาพล่างครับ

 

ภาพบนจากหนังสือ Mastering Elliott Wave หน้า 11-29

 

 

ภาพบนจากหนังสือของ Fischer

ขยายความดังนี้ครับ ถ้าหากพบว่าคลื่น 1 หรือ คลื่น 3 เป็น Trend ที่มากกว่า 5 คลื่น (abcxabc, 1234567) ก็ให้ระวังว่าคลื่น 4 จะลงมาเหลื่อมทับกับคลื่น 2 เป็นรูปแบบ Terminal Impulsion

ทีนี้ในกราฟจริงแบบ Real Time ก็ต้องมาลุ้นกันครับว่าจะลงมาแบบไหน จะทับหรือไม่ทับ ซึ่งในของจริงมีโอกาสเป็นไปได้ทั้ง 2 แบบตามภาพวาด

 

 

 

 

 

รูปบน คลื่น X3 เป็น Non Standard (a b c x a b c) ก็ให้ระวังว่า 4 จะย้อยลงมาทับกับคลื่น 2 ทำให้เป็น Terminal Impulse แต่พอจบคลื่น 5 แล้ว คลื่น 4 ไม่ได้ลงมา Overlap กับ 2 ก็ไม่เป็นไร จะไม่เกิดการลงแรงตามฟอร์ม Terminal Impulse 

 

รูปบนจากหนังสือ Mastering Elliott Wave by Glenn Neely บทที่ 11 หน้า 11-29

 

 

ถ้าต้องการทราบรายละเอียดที่ลึกกว่านี้ผมทำบทความที่เป็นคลิปสอนเอาไว้ทั้งหมด 3 EP เข้าไปศึกษากันได้ครับ

EP1 คลื่นย่อยของ 1-3-5 เป็น Non Standard Correction

EP2 คลื่นย่อยของ 1-3-5 เป็น Non Standard Correction

EP3 คลื่นย่อยของ 1-3-5 เป็น Non Standard Correction

 

 

ส่งท้าย

เทรนที่มากกว่า  5 คลื่นสามารถคำนวณหาทิศทางและเป้าหมายได้นะครับ ถ้าพบเทรนแบบนี้ในกราฟจริง ไม่ว่าจะอยู่ตำแหน่งไหนก็ถือว่าเป็นโอกาสในการทำกำไรเลยครับ  

 

 


 

กดสั่งซื้อหนังสือจาก Amazon Mastering Elliott Wave

 

 สามารถกดสั่งซื้อหนังสือ R.N. Elliott's Masterworks และ Elliott Wave Principle จากเว็บไซต์ของผู้เขียนโดยตรง  www.elliottwave.com/books

 

 

2 ภาพนี้คือหนังสือของ Fischer 

กดสั่งซื้อหนังสือจาก Amazon  Fibonacci Applications and Strategies for Traders

 

 


 

ติดต่อสอบถามคอร์สเรียน แนะนำติชมมาที่

 

Email: This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.

 

Line ID : i_woottichai

 

ช่อง YouTube : www.youtube.com/@woottichaiinsawang9591

 

มาพูดคุยกันที่แฟนเพจ www.facebook.com/advanceelliottwave