ต่อเนื่องจากบทความนี้นะครับ EP2 หนังสือ Elliott Wave Principle: บีบ 7 คลื่นให้เหลือแค่ 5
ในบทความต่อเนื่องนี้เราจะมาดูผลลัพธ์กันครับว่า หากเราเชื่อเรื่อง Expanded Flat ของหนังสือ Elliott Wave Principle จะเกิดอะไรกับพอร์ตลงทุนของเราบ้าง
(โดนหลอกให้ Buy / Sell 4 รอบติด ๆ กัน)

ภาพบนคือระบบ 5 คลื่น (Impulsion) ที่ Elliott Wave Principle ยึดเป็นหลักการสำคัญ กล่าวคือ Trend ต้องมี 5 คลื่นเสมอ จากนั้นพอจบ 5 ก็จะต้องย่อเป็น ABC ตามภาพ

ภาพบน วาดจากหนังสือ Elliott Wave Principle หน้า 136
หากว่า Trend เกิน 5 คลื่น หนังสือก็จะนับให้เป็นคลื่นซ้อนคลื่นตามรหัสคลื่นย่อย 5-3-5-3-5 เช่นภาพบนมีทั้งหมด 9 คลื่น ก็จะนับคลื่น 3 มี 1 2 3 4 5 เป็นคลื่นย่อย (ผมไม่นับแบบนี้นะครับ ภาพนี้แค่อธิบายคอนเซ็ปหนังสือ Elliott Wave Principle หน้า 136 เท่านั้น)
แต่ปัญหาคือ ถ้าหากว่า Trend มีมากกว่า 5 คลื่น แต่ก็ไม่ถึง 9 คลื่น เขาจะนับอย่างไร

ก็เหมือนบทความก่อนหน้าครับว่า เข้าจะสร้าง Expanded Flat ขึ้นมาต่อจากคลื่น 5 ตามบทความนี้ EP2 หนังสือ Elliott Wave Principle: บีบ 7 คลื่นให้เหลือแค่ 5
ทีนี้เรามาจำลองสถานการณ์แบบ Step by Step กันครับ
ในการจำลองสถานการณ์หรือ Simulation นั้น สิ่งสำคัญอันดับแรกคือเราต้องตั้งความเห็นก่อนว่าในหน้างานจริง คลื่นจะเกิดต่อเนื่องกันไปทีละคลื่น แบบ Step by Step ซึ่งจะแตกต่างกับการดูกราฟย้อนหลัง ซึ่งกราฟเฉลยแล้ว ไม่ว่าจะใส่ Pattern อะไรลงไปก็สมเหตุสมผลทั้งหมด แต่การนับแบบ Real Time ไม่เหมือนกันครับ นับแบบ Real Time ต้องมีหลักการที่ใช้ได้จริงในระดับ Real Time ซึ่งแตกต่างกับหลักการที่ใช้นับย้อนหลังครับ
Step 1

ภาพบน พอครบ 5 คลื่น ก็จะต้องมองย่อเป็น A B C ตามหลักการที่หนังสือ Elliott Wave Principle ยึดมั่น
ภาพบน จากหนังสือ Elliott Wave Principle หน้า 194, Figure 7-5
พอครบ 5 คลื่นก็ต้องขายหรือทำการ Short/Sell เพราะจะต้องย่อเป็น ABC แบบภาพก่อนหน้าใช้ไหมครับ

แต่หลายครั้งที่พอ 5 คลื่นแล้ว ไม่ลงมาเป็น A B C เช่นภาพบน
Step 2
ภาพบน
ถ้ากราฟเกิน 5 คลื่นเขาจะเปลี่ยน Label ใหม่ให้สอดคล้องกับรหัสคลื่น ตัวอย่างภาพบนหนังสือจะทำให้คลื่น 3 ยืดตัวและมีคลื่นย่อย 5 คลื่น (เส้นสีน้ำเงินคือคลื่นในอนาคตที่คาดว่าจะเกิด วางเป็นตำแหน่งคลื่น 4 และ 5)
(หลักการรหัสคลื่นย่อย 5-3-5-3-5 หนังสือ Elliott Wave Principle จะยึดถือเรื่องนี้มาเป็นอันดับ 1 เหนือกฏเกณฑ์ใด ๆ)
ถ้านึกภาพกราฟจริงไม่ออกลองดูภาพล่างครับ

ภาพบนคือการนับกราฟจริงของหนังสือ Elliott Wave Principle หน้า 39 , สีแดงคือคลื่นย่อยของ 3 ใหญ่สีดำ , ส่วนคลื่น 4 - 5 สีดำคือคลื่นในอนาคตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น

ภาพบนแสดงเหตุการณ์แบบ Step by Step จะต้องลงเบิลเป็น 5 คลื่นปกติแบบนี้ก่อน พอกราฟเกิน 5 คลื่นจึงค่อยเปลี่ยนเป็นคลื่นซ้อนคลื่นตามรหัส 5-3-5 (ผมไม่นับคลื่นแบบนี้นะครับ)

แต่ว่ากราฟไม่ขึ้นไปทำคลื่น 4-5 แบบเส้นน้ำเงิน แต่ลงมาตามภาพบน ทำให้ยอด 3 กลายเป็น High ตามทฤษฏี Dow ทันที , ก็ต้องไป Step 3 ละครับ
Step 3

ภาพบน ทางเลือกสุดท้ายคือใช้รูปแบบ Expanded Flat มาอธิบาย เพราะหนังสือ Elliott Wave Principle ไม่มี Trend 7 คลื่นหรือเทรนแบบ ABCXABC
(ถ้ามีก็สามารถคำนวณเป้าหมายขาขึ้น และหาการจบเพื่อเล่นขาลงได้)

ถ้าใช้ Expanded Flat มาอธิบายก็ต้องมองขึ้นต่อนะครับ (บนยอด 5 อาจเป็น 1 ใหญ่หรือ 3 ใหญ่)
Step 4

ภาพบน กราฟจริงไม่กลับขึ้นข้างบนตามหลักการ Expanded Flat ของ หนังสือ Elliott Wave Principle แต่ไหลลงยาวเบรคโลว์เก่าเลยครับ
สรุป
โดนหลอก 4 ครั้ง 4 Step ติด ๆ กันเลยครับ การวิเคราะห์ที่ผิดติดต่อกันถึง 4 ครั้ง ต้องพิจารณาแล้วครับ
ผมไม่รู้ว่าหลักการในหนังสือ Elliott Wave Principle เขียนขึ้นมาโดยอิงจากอะไร ทีแน่ ๆ ไม่ได้อิงจากกราฟจริงแน่นอน เพราะถ้าอิงจากกราฟจริง ก็จะไม่ทำให้ผู้เรียนโดนหลอกไปหลอกมาถึง 4 ครั้งติดต่อกันแบบนี้
เหมือนที่ผมบอกมาตลอดครับว่า ตำรา Elliott Wave ของฝรั่งไม่ได้ถูกต้องหรือใช้จริงได้เสมอไป โดยเฉพาะ Elliott Wave Principle ที่เน้นนับย้อนหลัง แต่ใช้จริงไม่ได้ ดังนั้นผู้อ่านก็ต้องมีสติตรวจสอบทุกหลักการก่อนนำไปใช้กับกราฟจริงนะครับ
เป้าหมายของบทความชุดนี้
เรื่องตำรา Elliott Wave ของฝรั่งผมค้นคว้าและทำ Research เก็บไว้เมื่อ 20 กว่าปีก่อน แต่ว่าไม่เคยนำมาเผยแพร่
จนกระทั้งผมกลับมาอัพเดทเพจเมื่อปลายปี (หลังจากหายไปนาน) ก็มีเพื่อนสมาชิกคัดลอกสิ่งที่อยู่ในตำรามาคอมเมนต์ เช่น 2 ภาพล่าง
ทำให้ผมรู้สึกเหมือนได้ย้อนกลับไปวันที่เพิ่งอ่านตำรา อ่านแล้วก็ว้าวกับหลักการ และเชื่อทุกอย่างที่ตำราเขียนโดยไม่มีการตรวจสอบว่าหลักการเหล่านั้นใช้ได้จริงหรือไม่ บทความชุดนี้จึงขอพาทุกท่านร่วมกันตรวจสอบไปทีละส่วนว่า หลักการที่เขียนในตำราเล่มนี้ใช้ได้จริงมากน้อยแค่ไหนครับ

CEWA คือผู้ที่อ่านหนังสือเล่มน้ำเงินที่กำลังพูดถึงอยู่นี้ (Elliott Wave Principle) เพื่อสอบเอาใบ Certificate จากผู้เขียนตำรา
ผมทำบทความอธิบายเอาไว้แล้วนะครับ สำหรับการบอกว่าคลื่น 2 ห้ามเป็น Triangle ของหนังสือเล่มน้ำเงิน หนังสือก็เขียนแบบนี้จริง ๆ นะครับ แต่กราฟจริงไม่ได้เป็นอย่างที่เขาเขียน ถ้าตรวจสอบกันจริง ๆ จะพบว่า Triangle เกิดในคลื่น 2 ในกราฟจริงบ่อยมาก การอ่าน/ฟังแล้วเชื่อทันทีโดยไม่ไตร่ตรองให้รอบด้าน ถือเป็นเหยื่อในวงการลงทุนนะครับ, ผมทำเป็น Case Study ไว้ในบทความแล้ว Triangle ไม่ใช่การเก็บของและอยู่ใน W.2 ได้
หรือแบบภาพล่าง

คนนับคลื่นที่มีประสบการณ์กับกราฟจริงมักจะเจอคอมเมนต์แบบภาพนี้ครับ คือการคอมเมนต์/พูดตามตำรา โดยไม่มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน อ่านแล้วเชื่อทันทีโดยไม่ตรวจสอบ ไม่ถือว่าเป็นวิสัยที่นักลงทุนเขาทำกันนะครับ
ถ้ารู้ว่าส่วนใดของตำราใช้ได้และใช้ไม่ได้จริง ก็จะทำให้ผู้เริ่มต้นศึกษาประสบความสำเร็จโดยไม่ต้องเสียเวลาลองผิดลองถูกเอง คือเป้าหมายหลักของบทความชุดนี้ครับ

Elliott wave Principle เป็นหนังสือที่ผมอ่านเมื่อ 20 ปีก่อน เคยทำรีวิวไว้เมื่อปี 2013 ในคลิปผมพูดแค่ว่าผมไม่ใช้หนังสือเล่มนี้ในการเทรด แต่ก็ไม่ได้อธิบายรายละเอียดว่าทำไมถึงไม่ใช้ ในซีรีส์นี้จะมาเล่าให้ฟังเป็นตอน ๆ ครับว่ามีเหตุผลอะไรบ้างที่คนอ่านไม่ควรนำหลักการในหนังสือเล่มนี้ไปใช้จริง
เพื่อจะได้ไม่เสียเวลาเรียนรู้สิ่งที่ใช้จริงไม่ได้
*ถึงอย่างนั้นก็มีบางจุดที่สามารถนำไปใช้ได้ แต่จะเป็นในส่วนของ Concept ที่เป็นเส้นก้างปลาไม่ใช่การนับกราฟจริง
เรื่องนี้ทำให้ผมนึกถึงทฤษฎี "ฟางในชะลอม" ของอาจารย์ เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ จากหนังสือการคิดเชิงวิเคราะห์

ทฤษฎีชะลอม เปรียบได้กับคน ๆ หนึ่งที่มีสมติฐานหรือมีความเชื่ออย่างสนิทใจ ว่ากองฟางมีรูปร่างเหมือนชะลอม จึงพยายามหาข้อพิสูจน์ แต่หาเท่าไรกองฟางก็ยังคงมีรูปร่างต่าง ๆ ไม่เหมือนชะลอม แต่แทนที่เขาจะทำการพิสูจน์ความเชื่อหรือสมติฐานนั้น เขากลับอัดฟางลงไปในชะลอมจนแน่น แล้วเอากรรไกรตัดเล็มฟางที่เล็ดลอดออกมาจากชะลอมนั้น จนมันเรียบ จากนั้นจึงถอดชะลอมออก แล้วเที่ยวบอกใครต่อใครว่า “เห็นไหม ... กองฟางรูปร่างเหมือนชะลอมแล้ว” เป็นการสร้างความเชื่อให้เป็นความจริง โดยการคัดข้อมูลออกตามใจ เพื่อให้ข้อมูลลงตัวตามเป้าหมาย แล้วพยายามบอกคนอื่นให้เชื่อตาม
"สภาวะที่แท้จริงของตลาดคือความเป็นไปได้ที่หลากหลาย จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะถูกล็อกด้วยรหัสคลื่นทุกครั้ง วิธีเดียวที่จะทำให้หลักการรหัสคลื่น 5-3-5 เป็นจริงขึ้นมาได้ทุกครั้ง ก็คือต้องทำแบบเดียวกับฟางในชะลอม"

ภาพบน หนังสือการคิดเชิงวิเคราะห์ อ.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์
ทฤษฏีฟางในชะลอมถือเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันทางความคิดได้ดีทีเดียวครับ เพราะไม่ว่าจะยุคไหนการตัดแต่งข้อมูลให้คนหลงเชื่อ คาดเคลื่อนจากความเป็นจริงไม่เคยหายไป มีแต่จะเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ , ทักษะการตรวจสอบข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา จึงเป็นทักษะที่สำคัญในการฝึกลูกหลานของเราครับ

สามารถกดสั่งซื้อหนังสือ R.N. Elliott's Masterworks และ Elliott Wave Principle จากเว็บไซต์ของผู้เขียนโดยตรง www.elliottwave.com/books
ติดต่อสอบถามคอร์สเรียน แนะนำติชมมาที่
Email: This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
Line ID : i_woottichai
ช่อง YouTube : www.youtube.com/@woottichaiinsawang9591
มาพูดคุยกันที่แฟนเพจ www.facebook.com/advanceelliottwave
