วิธีฝึกนับคลื่น Elliott Wave ให้ใช้ได้จริง เราจะไม่เริ่มที่การท่องกฏตามตำรา แต่เราจะเริ่มจากการแกะคลื่นตามความเป็นจริง โดยมี Dow Theory เป็นพื้นฐาน > จากนั้นก็บันทึกข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา จะมีกี่คลื่นก็แล้วแต่ บันทึกไปตามความเป็นจริงครับ

 ท่านที่เพิ่งเริ่มฝึก อาจใช้ Zigzag indicator ช่วยในตอนเริ่มต้นก็ได้นะครับ เดี๋ยวพอเก่งแล้วค่อยถอดออก

 เมื่อได้ข้อมูลอย่างตรงไปตรงมาแล้ว ให้นำข้อมูลที่เก็บได้ไปเทียบกับหลักการ Elliott Wave โดยวางเป้าหมายว่า หลักการนั้นต้องตอบคำถามเรื่องทิศทาง และเป้าหมายราคา ในแบบที่ทำซ้ำได้

หากหลักการใดไม่สามารถใช้คำนวณหา ทิศทาง+เป้าหมายได้ ให้แยกหลักการนั้นออกมา แล้วโน๊ตเอาไว้ว่า “ใช้จริงไม่ได้”

ข้อสังเกต

 หากเราเริ่มนับคลื่นด้วยการท่องกฏ + รหัสคลื่น + รูปแบบ 1 2 3 4 5 - A B C เราจะไม่ได้เห็นของจริง ไม่ได้เห็นกราฟอย่างที่กราฟเป็น เพราะเป็นการล็อกคำตอบเอาไว้ล่วงหน้า ซึ่งวิธีนี้จะใช้นับคลื่นย้อนหลังได้เท่านั้น แต่ไม่สามารถนำมาใช้แบบ Real Time ได้

คำตอบที่ถูกตั้งธงหรือล็อกเอาไว้ล่วงหน้า

เชื่อว่าหลายท่านเคยมีประสบการณ์ที่คล้ายกันแบบนี้

1. สมัยมัธยมผมเคยแพ้การคัดเลือกในการเข้าแข่งขันชิงความเป็นเลิศทางวิทยาศาสตร์ ให้กับเพื่อนที่เป็นลูกนักการเมืองท้องถิ่น ทั้ง ๆ ที่คะแนนสอบผมนำโด่ง แต่ผมกลับถูกคัดออกด้วยข้อหา "เส้นผมด้านหน้ายาวกว่าระเบียบ 1 เซนติเมนตร" ตอนนั้นผมแค่รู้สึกว่าไม่ยุติธรรม เพราะเส้นผมของเพื่อนก็ไม่สั้นกว่าผม แต่ด้วยความเป็นเด็กก็ไม่ได้คิดอะไรลึกซึ้ง จนอายุมากขึ้นมีประสบการณ์มากขึ้น จึงเข้าใจว่า ผมไม่ได้ไปต่อเพราะคำตอบมันถูก "ล็อก" เอาไว้ล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว
   
   
2. หรือ Meme ที่น้อง ๆ เจน Z ชอบเล่นกันในโซเชียลเมื่อหัวหน้างานไม่ชอบคุณ เช่น "หัวหน้าบอกว่าคุณสะกดคำว่า "ยุติธรรม" ผิด เพราะคุณวาง ร เรือ 2 ตัวสลับที่กัน" ???  หรือ "หัวหน้าให้คุณกลับมาแก้ไขงานใหม่เพราะ 1+2 ไม่เท่ากับ 2+1" เมื่อคุณกลับไปแก้ไขตามที่หัวหน้าสั่ง เขาก็จะบอกคุณว่า "คุณเขียนเครื่องหมาย + เอียงไป 5 องศา มันจึงกลายเป็นเป็นเครื่องหมายคูณ กลับไปแก้มาส่งใหม่" ... ทั้งหมดนี้คือตลกร้าย ที่คนทำงานในองกรค์มานานมักมีประสบการณ์ทำนองนี้ อย่างน้อย ๆ ก็คนละหนึ่งครั้ง

เมื่อคำตอบ ถูก/ผิด ได้ถูกล็อกไว้ล่วงหน้า การสร้างเหตุผลแปลก ๆ มารองรับจึงเกิดขึ้น แม้ว่าจะดูไม่สมเหตุสมผลแต่นั่นไม่สำคัญ เพราะคำตอบเพียงหนึ่งเดียวได้ถูกตั้งธงไว้เรียบร้อยแล้ว

อ่านบทความการนับคลื่นด้วยวิธีการล็อกคำตอบไว้ล่วงหน้า นับคลื่นตามจริง EP1

การมีคำตอบไว้ล่วงหน้า แล้วบิดเบือนข้อมูลให้ตรงกับคำตอบที่เตรียมไว้ จะถูกอธิบายด้วยทฤษฎีฟางในชะลอม (อ่านในท้ายบทความ)

จดหมายของ Ralp Nelson Elliott เขาบอกว่า Elliott Wave คือการเก็บข้อมูลตลาดอย่างที่ตลาดเป็น และข้อมูลเก่าอาจใช้ไม่ได้ในอนาคต

พอพูดถึง Elliott Wave คนส่วนใหญ่จะนึกถึง 12345 ABC + รหัสคลื่น 5-3-5 เป็นสิ่งแรก , ผลลัพธ์ก็เหมือนในคอมเมนต์ภาพนี้เลยครับ คือพอใช้จริงแล้วพบว่ากราฟไม่ได้มีแค่ 12345 ABC คือเป็นไปไม่ได้ที่กราฟจะถูกล็อกเอาไว้ด้วยรหัส 5-3-5 เสมอ , ถือว่าเป็น คห. ที่ซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา นะครับ

 เป็นไปไม่ได้ที่กราฟจะถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าด้วยรหัสคลื่น 5-3-5 แบบในภาพ

 don’t try to home krub

 

 

 

จะนับคลื่นให้ลงล็อกรหัสคลื่น 5-3-5 ก็ได้นะครับ แต่ต้องทำบางสิ่งบางอย่างคล้ายกับ “ฟางในชะลอม”

อ่านบทความตัวอย่างการยัดเยียดให้กราฟเป็นไปตามรหัสคลื่น นับคลื่น 2 ยาวกว่า 1 : หนังสือ Elliott Wave Principle EP1  และ บีบ 7 คลื่นให้เหลือแค่ 5 : หนังสือ Elliott Wave Principle EP2 และ Expanded Flat กับดักคลื่น : หนังสือ Elliott Wave Principle EP3

 

 

 

---

 

 

เรื่องนี้ทำให้ผมนึกถึงทฤษฎี "ฟางในชะลอม" ของอาจารย์ เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ จากหนังสือการคิดเชิงวิเคราะห์

 

ทฤษฎีชะลอม เปรียบได้กับคน ๆ หนึ่งที่มีสมติฐานหรือมีความเชื่ออย่างสนิทใจ ว่ากองฟางมีรูปร่างเหมือนชะลอม จึงพยายามหาข้อพิสูจน์ แต่หาเท่าไรกองฟางก็ยังคงมีรูปร่างต่าง ๆ ไม่เหมือนชะลอม แต่แทนที่เขาจะทำการพิสูจน์ความเชื่อหรือสมติฐานนั้น เขากลับอัดฟางลงไปในชะลอมจนแน่น แล้วเอากรรไกรตัดเล็มฟางที่เล็ดลอดออกมาจากชะลอมนั้น จนมันเรียบ จากนั้นจึงถอดชะลอมออก แล้วเที่ยวบอกใครต่อใครว่า “เห็นไหม ... กองฟางรูปร่างเหมือนชะลอมแล้ว” เป็นการสร้างความเชื่อให้เป็นความจริง โดยการคัดข้อมูลออกตามใจ เพื่อให้ข้อมูลลงตัวตามเป้าหมาย แล้วพยายามบอกคนอื่นให้เชื่อตาม

 "สภาวะที่แท้จริงของตลาดคือความเป็นไปได้ที่หลากหลาย จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะถูกล็อกด้วยรหัสคลื่นทุกครั้ง วิธีเดียวที่จะทำให้หลักการรหัสคลื่น 5-3-5 เป็นจริงขึ้นมาได้ทุกครั้ง ก็คือต้องทำแบบเดียวกับฟางในชะลอม"

 

 ภาพบน หนังสือการคิดเชิงวิเคราะห์ อ.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์

ทฤษฏีฟางในชะลอมถือเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันทางความคิดได้ดีทีเดียวครับ เพราะไม่ว่าจะยุคไหนการตัดแต่งข้อมูลให้คนหลงเชื่อ คาดเคลื่อนจากความเป็นจริงไม่เคยหายไป มีแต่จะเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ , ทักษะการตรวจสอบข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา จึงเป็นทักษะที่สำคัญในการฝึกลูกหลานของเราครับ  

 

---